“บอมบาร์ดิเอร์” ยึดหัวหาด 5 หมื่นล้าน ผลิตโมโนเรลไทย เมดอินไชน่า

521

บอมบาร์ดิเอร์” ยึดหัวหาด หมื่นล้าน ผลิตโมโนเรลไทย เมดอินไชน่า

เผยโฉมหน้าออกมาแล้ว สำหรับรถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สายแรกในประเทศไทยสายสีชมพู“แคราย-มีนบุรี” และสายสีเหลือง“ลาดพร้าว-สำโรง” ระยะทางรวม 64.9 กิโลเมตร จะใช้บริการระบบของ “บอมบาร์ดิเอร์” จากประเทศแคนาดา

หลังเจ้าพ่อบีทีเอส “คีรี กาญจนพาสน์” อุบไต๋และชั่งใจอยู่นานระหว่างระบบบอมบาร์ดิเอร์และฉงชิ่งจากประเทศจีน ก่อนจะเปิดตัวเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการในวันเซ็นสัญญาสัมปทานแสนล้านเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2560 ที่ผ่านมา

สาเหตุที่เจ้าพ่อบีทีเอสเคาะชื่อ “ระบบบอมบาร์ดิเอร์” ว่ากันว่า เป็นเพราะเสนอออปชั่นให้มากกว่า “ฉงชิ่ง” โดยเฉพาะราคาที่ดัมพ์ลงมาจนเป็นที่พอใจ

อีกเหตุผลหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะ “บอมบาร์ดิเอร์” สามารถผลิต “ซูเปอร์โมโนเรล” มีสมรรถภาพใกล้เคียงกับรถไฟฟ้าได้ ขณะที่ “ฉงชิ่ง” ผลิตได้เฉพาะรถโมโนเรลธรรมดา

แต่ไม่ว่าจะเป็น “บอมบาร์ดิเอร์” หรือ “ฉงชิ่ง” ก็ไม่ต่างกัน เพราะแหล่งผลิตมาจากประเทศเดียวกัน นั่นคือ ประเทศจีน ซึ่ง “บอมบาร์ดิเอร์” ได้ร่วมทุน 50 : 50 กับ “CRRC” ผู้ผลิตรถไฟฟ้าฉางชุนและฉงชิ่งจากประเทศจีน ตั้งโรงงานผลิตโมโนเรล ป้อนตลาดที่จีนและประเทศอื่น ๆ เช่น มาเลเซีย

“คีรี กาญจนพาสน์” ประธานกลุ่มบีเอสอาร์ ผู้รับสัมปทานก่อสร้างและเดินรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง กล่าวว่า รถไฟฟ้า 2 สายนี้ จะเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือโมโนเรล 2 สายแรกของประเทศไทย ที่เป็นโครงการร่วมทุน PPP Net Cost ที่เอกชนผู้ลงทุนจะต้องรับความเสี่ยงในเรื่องของผลประกอบการเอง ใช้เงินลงทุนเกือบ 1 แสนล้านบาท

“หลังจากนี้จะเร่งออกแบบและเริ่มก่อสร้างในปีนี้ อยู่ที่ รฟม.จะส่งมอบพื้นที่ให้เร็วได้แค่ไหน เพราะเป็นจุดสำคัญ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้โครงการนี้แล้วเสร็จเร็วกว่าแผนที่กำหนดปลายปี เป็นต้นปี 2563”

ส่วนงานระบบ ได้เลือกบริษัท บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น ซิกแนล (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท CRRC ประเทศจีน เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมดทั้งระบบอาณัติสัญญาณ ขบวนรถ ระบบขายตั๋วและจัดเก็บค่าโดยสาร มูลค่ารวมประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท

สำหรับขบวนรถที่จะสั่งซื้อ จำนวน 288 ตู้ หรือ 72 ขบวน ใน 1 ขบวน มี 4 ตู้ เป็นรถรุ่นใหม่ล่าสุด ชื่อ “INNOVA Monorail 300” ตัวรถมีความกว้าง 3 เมตร ยาว 11 เมตรกว่า ๆ เท่ากับรถบีทีเอส สามารถขนส่งผู้โดยสารได้ 40,000 คน/ชั่วโมง/ทิศทาง วิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ย 35 กิโลเมตร/ชั่วโมง สูงสุด 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง

“เราเลือกบอมบาร์ดิเอร์ เพราะเขาร่วมกับจีน มีการตั้งโรงงานที่ประเทศจีน ซึ่งเดินทางไปดูมาแล้วคุณภาพใช้ได้ เขาให้เราใช้แบรนด์ ใช้เทคโนโลยีเขาเลย และรับประกันคุณภาพทุกอย่าง”

และไม่ใช่แค่เค้กสาย “สีชมพู-เหลือง” ที่ “บอมบาร์ดิเอร์” จะได้ออร์เดอร์จากเจ้าพ่อบีทีเอส ยังมีสายสีทองรอจ่อคิวอีก 3 ขบวน

คงต้องรอลุ้น “โมโนเรลไทย” สายพันธุ์เมดอินไชน่า มาตรฐานยุโรป คุณภาพจะน่าประทับใจแค่ไหน